Q1: รายละเอียดของโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) คืออะไร
A1: เป็นการรวมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น อาทิ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินเชื่อเช่าซื้อ เป็นต้น ของลูกหนี้ภายใต้สถาบันการเงินเดียวกัน เพื่อเป็นทางเลือกในการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ โดยใช้ประโยชน์จาก หลักประกันในส่วนของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีเหลืออยู่
Q2: เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการมีอะไรบ้าง
A2: เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการมีดังนี้
- เฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาระเศรษฐกิจอันเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สงครามการค้า และภัยธรรมชาติ มาอย่างต่อเนื่อง
- ผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (เฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรีไฟแนนซ์) อยู่กับธนาคาร และมีสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น อาทิ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ หรือสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ ซึ่งไม่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) หรือไม่เป็นหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระ อยู่กับธนาคาร และ/หรือบริษัทในเครือของธนาคาร ที่ปัจจุบันยังคงมียอดหนี้คงค้างเหลืออยู่
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่กับธนาคารจะต้องมีการจดทะเบียนจำนองหลักประกันก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 และมีสถานะทางบัญชีเป็นบัญชีปกติ ไม่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) หรือไม่เป็นหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระ
- ธนาคารจะดำเนินการรวมหนี้ด้วยวิธีการรวมยอดเงินต้นคงค้างของสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นเท่านั้น สำหรับดอกเบี้ยค้างรับของสินเชื่อรายย่อยดังกล่าวจะไม่ถูกนำมารวมหนี้
- ผู้เข้าร่วมโครงการต้องดำเนินการจดทะเบียนจำนองหลักประกันที่มีอยู่ให้กับธนาคาร และต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการจดทะเบียนดังกล่าว
- สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564
- ในกรณีที่สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นของผู้เข้าร่วมโครงการอยู่ในระหว่างการเข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ของธนาคาร และผู้เข้าร่วมโครงการต้องการนำสินเชื่อรายย่อยประเภทดังกล่าวมาเข้าร่วมโครงการนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องทำการยกเลิกการขอรับความช่วยเหลือที่ได้รับอยู่แล้วก่อน
- เมื่อผู้เข้าร่วมโครงการได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการนี้ และมีความประสงค์ที่จะขอสินเชื่อใหม่เพิ่มเติมในภายหลัง ธนาคารขอสงวนสิทธิ์พิจารณาสินเชื่อใหม่ภายหลังจากจบโครงการตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ (หลังวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป)
- ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการอนุมัติหรือปฏิเสธสิทธิในการเข้าร่วมโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของธนาคาร
Q3: ถ้าลูกค้ามีสินเชื่อบ้านอยู่กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา แต่มีสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นกับสถาบันการเงินอื่น จะขอเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่
A3: โครงการดังกล่าวใช้ได้กับสินเชื่อที่อยู่ภายใต้สถาบันการเงินเดียวกันเท่านั้น
Q4: ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับจากโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) คืออะไร
A4:
- ไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต
- ลดภาระหนี้ทั้งดอกเบี้ยและค่างวด
- ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ เป็นต้น ยกเว้น มีค่าจำนองร้อยละ 0.01 ของวงเงินรวมจากการรวมหนี้
- สามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่เหลือได้ (ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้)
Q5: เอกสารประกอบการดำเนินการ มีอะไรบ้าง
A5: ลูกค้าต้องเตรียมเอกสารและเซ็นต์รับรองสำเนาทุกฉบับ ดังรายการต่อไปนี้
- สำเนาบัตรประชาชน ผู้กู้ และคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้กู้ และคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาใบทะเบียนสมรส หย่า ใบแจ้งความว่าแยกกันอยู่ (ถ้ามี)
- แบบฟอร์ม ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลทางโทรสาร (NCB Consent)
- สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของหลักประกันที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด
- สำเนาใบแจ้งยอดบัญชี (Statement) ล่าสุดของสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ
- เอกสารหลักฐานที่แสดงถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอันเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื่อไวรัสโคโรนา 2019 สงครามการค้า และภัยธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง เช่น เอกสารแสดงรายได้สำหรับผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม (ถ้ามี) ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการรวมหนี้
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
- หนังสือรับรองการทำงานหรือสำเนาสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด) ที่แสดงถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอันเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สงครามการค้า และภัยธรรมชาติ มาอย่างต่อเนื่อง
- สำเนา statement ของธนาคารย้อนหลังตั้งแต่เดือนที่ได้รับผลกระทบจนถึงเดือนปัจจุบัน
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำเนา Statement ของธนาคารย้อนหลังตั้งแต่เดือน มกราคม 2563 - ปัจจุบัน
Q6: กรณีลูกค้าอยู่ระหว่างการเข้าร่วมโครงการมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 จะสามารถเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) ได้หรือไม่
A6: ลูกค้าสามารถเลือกรับความช่วยเหลือได้เพียง มาตราการใดมาตรการหนึ่งเท่านั้น กรณีหากลูกค้ามีสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างการได้รับความช่วยเหลือจากโครงการมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 อยู่แล้ว และต้องการนำบัญชีสินเชื่อรายย่อยเดียวกันนั้น มาเข้าในโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation)ดังกล่าว ลูกค้าต้องทำการยกเลิกมาตราการช่วยเหลือฯ ที่รับบริการอยู่ในขณะนั้นก่อน ทั้งนี้ทางธนาคารแนะนำให้ลุกค้าเลือกโครงการที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดกับตัวลูกค้าเอง
Q7: กรณีลูกค้าเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) แล้ว และต้องการเข้าร่วมใหม่ได้หรือไม่ จำกัดการเข้าร่วมกี่ครั้ง
A7: สามารถเข้าร่วมได้แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการรวมหนี้จากต่างผลิตภัณฑ์ เช่นครั้งแรกลูกค้านำเอาสินเชื่อบุคคลมาเข้าโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) และต่อมาต้องการนำเอาสินเชื่อบัตรเครดิต มาเข้าโครงการดังกล่าวอีกครั้งโดยใช้หลักประกันเดียวกัน ลูกค้าสามารถเข้าร่วมได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
Q8: กรณีลูกค้าสมัครเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) แล้ว จะมีผลต่อการพิจารณาในการขอสินเชื่อในอนาคตหรือไม่
A8: เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) และให้ลูกค้าเมื่อรวมหนี้แล้วยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน หรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ดังนั้น การพิจารณาสินเชื่อจะต้องรอหลังสิ้นสุดมาตรการของ ธปท กล่าวคือ การพิจารณาสินเชื่อใหม่ จะเริ่มพิจารณาให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 แต่ทั้งนี้กรณีที่ลูกค้ามีการปิดวงเงินสินเชื่อที่มาจากการรวมหนี้แล้ว การพิจารณาสินเชื่อใหม่จะมีระยะเวลารอคอย 6 เดือนหลังจากปิดชำระไปแล้ว ทางธนาคารจึงจะพิจารณาสินเชื่อใหม่ให้ได้
Q9: กรณีลูกค้ามีสินเชื่อบุคคลกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา และมีบัตรกดเงินสดจากบัญชีสินเชื่อบุคคลดังกล่าว ลูกค้ายังสามารถกดเงินสดจากบัตรดังกล่าวได้หรือไม่
A9: เมื่อธนาคารได้รับเอกสารสมัครเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation)จากลูกค้า และสินเชื่ออยู่ในระหว่างการพิจารณา ธนาคารจะดำเนินการ Hold วงเงินบัตรกดเงินสดไว้ก่อนเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาสินเชื่อในโครงการดังกล่าว และหากสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะคืนวงเงินบัตรกดเงินสด โดยลดวงเงินเหลือเพียง 10% ของวงเงินที่ใช้ได้ในขณะที่ทำการอนุมัติ หรือขั้นต่ำ 5,000 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้าในกรณีฉุกเฉิน (ขึ้นกับวงเงินคงเหลือ และที่สามารถเบิกใช้ได้ของลูกค้าแต่ละราย)
Q10: หากลูกค้าไม่สามารถเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) ได้ ลูกค้ายังสามารถขอเข้าร่วมโครงการอื่นๆ ของธนาคารได้หรือไม่
A10: ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการอื่นๆ ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ธนาคารมีได้ เช่น มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย หรือมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นอย่างเดียว หรือดอกเบี้ยอย่างเดียว หรือเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ เป็นต้น
Q11: หากลูกค้ามีบัญชีสินเชื่อบ้านเป็นบัญชีกู้ร่วม และต้องการนำสินเชื่อบุคคล มาเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) ลูกค้าสามารถดำเนินการทำเรื่องขอได้หรือไม่
A11: ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ลูกค้าต้องมีการลงนามในสัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ โดยวงเงินของสัญญาฉบับดังกล่าวจะเป็นวงเงินของการรวมหนี้ตามที่ลูกค้าแจ้งความประสงค์และธนาคารได้อนุมัติวงเงินดังกล่าว ทั้งนี้ลูกค้าทุกท่านที่อยู่ในสัญญาเงินกู้สินเชื่อบ้านต้องมีการทำธุรกรรมจำนองที่กรมที่ดิน
Q12: อัตราดอกเบี้ยสำหรับวงเงินที่มาจากโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) คิดอัตราดอกเบี้ยต่อปี เท่าไหร่
A12: อัตราดอกเบี้ยคิดที่ MRR ตามประกาศของธนาคาร ตลอดอายุเงินกู้
Q13: ธนาคารใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ สำหรับการพิจารณาอนุมัติโครงการสำหรับลูกค้า
A13: ธนาคารจะใช้เวลาประมาณ 14 วันทำการในการดำเนินการ นับจากได้รับเอกสารครบถ้วนและสมบูรณ์
Q14: เหตุผลใดบ้างที่ลูกค้าอาจจะไม่ได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation)
A14:
- ลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบที่ได้รับผลกระทบจากภาระเศรษฐกิจอันเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สงครามการค้า และภัยธรรมชาติ มาอย่างต่อเนื่อง
- ขาดความสามารถในการชำระหนี้หรือรายได้ไม่เพียงพอต่อภาระหนี้ทั้งหมดจากโครงการรวมหนี้
- สินเชื่อรายย่อยอื่นๆ ที่นำมาสำหรับโครงการรวมหนี้ เป็นสินเชื่อต่างสถาบันการเงิน
- สถานะการผ่อนชำระของสินเชื่อบ้านไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
- วงเงินส่วนเหลือของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีการชำระคืนมายังธนาคาร ไม่เพียงพอต่อการรวมหนี้จากสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นๆ
- ลูกค้าให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือข้อมูลเป็นเท็จต่อธนาคาร
ทั้งนี้ ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการอนุมัติหรือปฏิเสธสิทธิในการเข้าร่วมโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของธนาคาร
Q15: หากลูกค้าสนใจเข้าร่วมโครงการต้องดำเนินการอย่างไร
ลูกค้าเตรียมเอกสารประกอบการดำเนินการตามรายการดังกล่าวข้างต้น พร้อมกรอกแบบฟอร์มคำขอเข้าร่วมโครงการ และยื่นผ่านสาขาของธนาคาร หรือส่งเอกสารทางไปรษณีย์ มาที่
ฝ่ายผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ชั้น 10A (โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) สำนักงานใหญ่
เลขที่ 1222 ชั้น 10 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120