หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ด้วยความมุ่งหวังให้ธนาคารเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคง และเพิ่มมูลค่าในระยะยาว ภายใต้การดำเนินงานที่ถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นรากฐานสำคัญ พร้อมกับคำนึงถึงความเสี่ยง ความรับผิดชอบและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสียและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายควบคู่ไปกับการสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วย

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการที่ดีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตลอดจนสอดคล้องกับจรรยาบรรณของธนาคารพาณิชย์ (Banking Industry Code of Conduct) และหลักเกณฑ์ของ ASEAN Corporate Governance Scorecard (ASEAN CG Scorecard)

โดยคณะกรรมการธนาคารได้อนุมัติหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีฉบับนี้เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นบรรทัดฐานให้กรรมการธนาคาร ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ได้ยึดถือเป็นกรอบการประพฤติปฏิบัติในการทำหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด รวมถึงเป็นแนวทางพื้นฐานให้บริษัทในกลุ่มธุรกิจนำไปปรับใช้หรือกำหนดหลักการกำกับดูแลกิจการของตนเอง ตามลักษณะธุรกิจของแต่ละบริษัท

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีความสอดคล้องกับสภาวการณ์และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ รวมถึงกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการธนาคารจึงได้กำหนดให้กลุ่มงานกฎหมายมีหน้าที่ทบทวนหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นประจำทุกปี หรือโดยไม่ชักช้า หากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการที่ดูแลด้านการกำกับดูแลกิจการ และคณะกรรมการธนาคารเพื่อพิจารณาอนุมัติตามลำดับ

เหตุการณ์สำคัญ

Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA)

FATCA ย่อมาจาก Foreign Account Tax Compliance Act เป็นกฎหมายที่ออกโดยสหรัฐอเมริกา มีวัตถุประสงค์หลัก เพิ่มป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี โดยผ่านการเปิดบัญชีกับสถาบันการเงินนอกสหรัฐอเมริกา เพื่อทำธุรกรรมการเงิน

FATCA กำหนดให้สถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารพาณิชย์มีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลทางบัญชี เงินได้ของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลอเมรกันที่มีรายได้นอกสหรัฐอเมริกา และ/หรือ หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholdable Payment) และนำส่งต่อหน่อยงานจัดเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกา (Internal Revenue Service: IRS)
aaa
bbb
ccc
สถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ได้ให้ความร่วมมือกับ IRS ตาม FATCA ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 เนื่องจากสถาบันการเงินไทยมีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ทั่วโลกจำนวนมาก การให้ความร่วมมือจึงเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกดำเนินมาตรการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือถูกปฏิเสธการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินอื่นทั่วโลกที่ให้ความร่วมมือ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการทำธุรกรรมของลูกค้าได้

ผลกะทบกับลูกค้าสถาบันการเงิน
นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป สถาบันการเงินไทยมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติมเมื่อมาติดต่อทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น เปิดบัญชีใหม่ เป็นต้น โดยให้ลูกค้าตอบแบบสอบถามสถานะความเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอเมริกันที่สถาบันการเงินไทยกำหนดร่วมกัน หากลูกค้าไม่ใช่บุคคลอเมริกันหรือไม่มีข้อบ่งชี้ว่าอาจเป็นบุคคลอเมริกัน ไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม แต่หากลูกค้าเป็นบุคคลอเมริกันหรือมีข้อบ่งชี้ว่าอาจเป็นบุคคลอเมริกันลูกค้าต้องกรอกแบบฟอร์มของ IRS เพื่อยืนยันสถานะตนเอง
aaa
bbb
ccc
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา