ICAS ระบบเคลียริ่งเช็คแบบใหม่ด้วยภาพเช็ค
ระบบ ICAS คือ
- ระบบการเรียกเก็บเงินตามเช็คระบบใหม่ด้วยภาพเช็ค
- ธนาคารที่รับฝากเช็คส่งภาพเช็คไปให้ธนาคารผู้จ่าย เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของการสั่งจ่าย
- ระบบนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินที่ให้บริการด้านเช็ค สามารถลดเวลาเรียกเก็บเงินตามเช็ค จาก 1-5 วันทำการเหลือ 1 วันทำการ
ไอแคส (ICAS) มีประโยชน์อะไรบ้างกับผู้ใช้เช็ค
- การหมุนเวียนเงินมีความคล่องตัวมากขึ้น ผู้ฝากเช็คจะรู้ผลการเรียกเก็บเงินภายใน 1 วันทำการหลังจากวันที่ฝากเช็ค
- มีเวลาฝากเช็คได้มากขึ้น การใช้ภาพเช็คจะช่วยลดเวลาในการขนส่งตัวเช็ค ทำให้ธนาคารสามารถขยายเวลาในการรับฝากเช็คจากลูกค้าได้ยาวนานขึ้น
การสั่งจ่ายเช็คต้องมีตราประทับ/ตรานูน/ตราสี หรือไม่
- กฎหมายไม่ได้กำหนดเงื่อนไขในการสั่งจ่ายเช็คว่าต้องมีตราประทับ/ตรานูน/ตราสี
- แม้หนังสือบริคณห์สนธิอาจกำหนดเงื่อนไขการลงนามว่าต้องมีตราประทับกำกับ แต่การสั่งจ่ายเช็คของนิติบุคคลสามารถกระทำได้ตามเงื่อนไขการลงลายมือ ตามที่ตกลงไว้กับธนาคารโดยไม่จำเป็นต้องมีตราประทับ
- การเปิดบัญชีกระแสรายวันของนิติบุคคล จะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดการมอบอำนาจที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ
ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องทำอย่างไร
- เตรียมเงินในบัญชีให้เพียงพอสำหรับการชำระเงิน ตามวันที่ระบุในหน้าเช็ค เนื่องจากมีการเรียกเก็บเงินเร็วขึ้นกว่าเดิม
- ไม่ควรแก้ไขข้อมูลบนหน้าเช็ค เพื่อป้องกันการทุจริตจากการเปลี่ยนแปลงข้อมูล
- ไม่ปรุจำนวนเงิน เจาะหรือทำให้เช็คเป็นรู และไม่ใช้ดินสอหรือปากกาสีแดงหรือปากกาเคมีในการเขียนเช็ค
- จำนวนเงินบนหน้าเช็คไม่ควรเกิน 1,000 ล้านบาท (หากชำระเกินกว่านั้นให้ใช้การโอนเงินผ่านระบบบาทเนต)
- ควรติดต่อธนาคารของท่านเพื่อขอยกเลิกการใช้ตราประทับ/ตรานูน/ตราสีเป็นเงื่อนไขการสั่งจ่ายเช็คเพราะตราเหล่านี้อาจบดบังข้อมูลที่สำคัญบนเช็ค
- หากมีการใช้ตราประทับฯ ธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสมุดเช็คสูงขึ้น เนื่องจากตราประทับฯ อาจบดบังสาระสำคัญบนเช็ค ทำให้ต้องส่งตัวเช็คจริงไปให้ธนาคารผู้จ่ายตรวจความถูกต้อง ในกรณีเช่นนี้ การจ่ายเงินอาจล่าช้ากว่าเช็คทั่วไป ผู้รับเงินจะไม่สะดวก และอาจไม่ยินดีรับเช็คที่มีตราประทับฯ
- เก็บรักษาเช็คให้อยู่ในที่ปลอดภัย และต้องแจ้งธนาคารทันทีเมื่อทราบว่าเช็คหาย
ระบบไอแคส (ICAS) เริ่มใช้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2554 และขยายไปทั่วประเทศปี 2555
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โปรดติดต่อฝ่ายการชำระเงินและตราสารหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โทร.
0 2283-6111,
0 2283-5055,
0 2356-7380,
0 2356-7381 |
www.bot.or.th