กรุงศรีมั่งมี QR และ กรุงศรีมั่งมี App

ดาวน์โหลดและลงทะเบียน Krungsri Mung Mee
ระบบปฏิบัติการ IOS และ Android
รายละเอียด
ร้านค้าสามารถขอใช้บริการกรุงศรีมั่งมี App ได้ที่ธนาคารกรุงศรีทุกสาขาทั่วประเทศ หลังจากธนาคารได้รับเอกสารถูกต้อง ครบถ้วน จะทำการลงทะเบียนข้อมูลผู้ใช้บริการในระบบ ร้านค้าจะได้รับรหัสร้านค้า (MID) สำหรับเปิดใช้บริการกับกรุงศรีมั่งมี App ทันที
คุณสมบัติผู้สมัคร​
  • ร้านค้าที่เจ้าของร้านเป็นบุคคลธรรมดา*
  • มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์/กระแสรายวัน ของธนาคารใดก็ได้
* สำหรับร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล อาทิเช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด, บริษัท ฯลฯ ไม่สามารถสมัครใช้กรุงศรีมั่งมี App ได้

เอกสารในการสมัคร
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ดาวน์โหลด “กรุงศรีมั่งมี App / Krungsri MungMee App” ผ่าน App Store หรือ Play Store
  • เปิดใช้บริการกรุงศรีมั่งมี App ด้วยรหัสร้านค้า (MID) และหมายเลขบัตรประชาชน
    หมายเหตุ: Citizen ID / ID Card Number
  • ร้านค้าควรทำรายการโอนเงินออกจากกรุงศรีมั่งมี App ทุกวัน เพื่อรองรับการรับชำระเงินในวันถัดไป*
หากท่านต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1572 หรือ กรุณาติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

 
กรุงศรีมั่งมี App (cover)
กรุงศรีมั่งมี App (pin)
กรุงศรีมั่งมี App (menu)
กรุงศรีมั่งมี App (summary)
  • กรณีผู้ชำระค่าสินค้าจ่ายด้วย KMA (Krungsri Mobile App) ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  • กรณีผู้ชำระค่าสินค้าจ่ายด้วย Mobile Banking Application ธนาคารอื่น ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละธนาคาร โดยค่าธรรมเนียมตามหลักเกณฑ์พร้อมเพย์เป็นดังนี้
จำนวนเงินโอน
(บาท/รายการ)
ค่าธรรมเนียม
(บาท/รายการ)
0 – 5,000 ไม่มีค่าธรรมเนียม
5,001 – 30,000 2
30,001 – 100,000 5
100,001 10
คำถามคำตอบ
1) บริการชำระเงินด้วย QR Code คืออะไร
  • บริการชำระเงินด้วย QR Code เป็นบริการที่ใช้ QR code เป็นสื่อในการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และ Mobile Application ของผู้ให้บริการที่ลูกค้าใช้งานอยู่
  • QR Code นี้เป็นมาตรฐานที่ ธปท. ได้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระดับสากล ได้แก่ Amex, JCB, Mastercard, UnionPay International และ Visa พร้อมทั้งธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน (เช่น TrueMoney mPAY และ BluePay) ร่วมกันพัฒนาและใช้มาตรฐาน QR Code เดียวกัน
  • ทำให้ร้านค้าสามารถใช้ QR Code ตามมาตรฐานเดียวกันในการรับชำระเงินได้ทั่วไปจากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงิน ในประเทศและรายการชำระเงินจากบัตรต่างประเทศ รวมทั้งรองรับการจ่ายเงินของลูกค้าจากช่องทางที่หลากหลาย เช่น จ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบัญชี e-Wallet โดยลูกค้าจะใช้ Mobile Application ของตนเองในการอ่าน QR Code และชำระเงิน

2) ประโยชน์ของการใช้บริการชำระเงินด้วย QR Code
  • ด้านลูกค้า: เป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินที่สะดวก และปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันที่ทันสมัย โดยลูกค้าสามารถใช้ Mobile Application อ่าน QR Code ของร้านค้าที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการจัดให้ เพื่อซื้อของหรือชำระเงินได้สะดวก รวดเร็ว
  • ด้านร้านค้า: เพิ่มช่องทางและความสะดวกการจ่ายเงิน ช่วยขยายฐานลูกค้าและโอกาสทางธุรกิจ ลดภาระการจัดเก็บและบริหารจัดการเงินสด และมีต้นทุนการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ต่ำลงมาก ไม่ต้องเสียค่าอุปกรณ์ โดยเฉพาะร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก และสามารถรับเงินโดยตรงเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์ได้ ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการเงินสดได้ดีขึ้น การจัดทำบัญชีและกระทบยอดเงินเข้าง่ายกว่าการทำธุรกรรมด้วยเงินสดมาก ลดภาระการบริหารจัดการและต้นทุนการทำธุรกิจได้อย่างดี

3) ปลอดภัยหรือเปล่า
  • การอ่าน QR Code ผ่าน Mobile Application ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงิน เช่น กรณีใช้บัตร เจ้าของบัตรไม่ต้องให้บัตรหรือข้อมูลบนบัตรแก่ร้านค้า จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการทุจริต เพราะเจ้าของบัตรจะใช้โทรศัพท์มือถืออ่าน QR code ของร้านค้าและทำการจ่ายเงินตรง
  • นอกจากนี้ การจ่ายเงินด้วย QR Code เป็นระบบที่พัฒนาอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของธนาคารและผู้ให้บริการในปัจจุบัน เช่น การให้บริการบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หรือการโอนเงินพร้อมเพย์ จึงมีความปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล และมีการตรวจสอบเป็นประจำ

4) เปิดให้บริการแล้วหรือยัง
บริการชำระเงินด้วย QR Code เป็นบริการใหม่ มีการใช้มาตรฐานกลาง และต้องเชื่อมโยงระบบระหว่างผู้ให้บริการทั้งที่เป็นธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงินรายอื่น ๆ จึงต้องทดสอบให้มั่นใจในความถูกต้องของการทำรายการ ความมั่นคงปลอดภัยของระบบ และการดูแลผู้ใช้บริการ โดยการให้บริการจริงจะทยอยเปิดตามความพร้อม คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ทั่วไปภายในเดือนธันวาคม 2560 นี้

5) การชำระเงินของลูกค้า และการรับเงินของร้านค้าด้วย QR Code มีการกำหนดวงเงินหรือไม่
การชำระเงินของลูกค้าผ่าน Mobile Application อาจมีการกำหนดวงเงินใช้จ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละรายและลักษณะของบัญชีที่ใช้ รวมทั้งการกำหนด Limit การโอนเงินจากบัญชีของลูกค้าเอง

6) ข้อแนะนำในการใช้งานมีอะไรบ้าง
  • ลูกค้าควรต้องตรวจสอบข้อมูลร้านค้าให้ถูกต้องก่อนการยืนยันการจ่ายเงินทุกครั้ง เช่น ชื่อผู้รับต้องตรงกับชื่อที่ระบุไว้ที่ QR Code ของร้านค้า และจำนวนเงินถูกต้อง ก่อนอนุมัติทำรายการ นอกจากนี้ ลูกค้าควรระมัดระวังการตั้งรหัส Username / Password ของ Mobile Application ของตนเองให้คาดเดาได้ยาก และไม่บอกรหัสกับผู้อื่น หรือเขียนเอาไว้ในที่เปิดเผย
  • ร้านค้าควรหมั่นตรวจสอบ QR Code ให้ถูกต้องว่าเป็น QR Code ของร้านค้าจริง (บัญชีของร้านค้าที่ใช้รับเงิน) มิให้มิจฉาชีพนำ QR Code ปลอมมาปิดทับ และควรระบุชื่อบัญชีที่ใช้รับเงินไว้คู่กับ QR Code ให้ลูกค้าสามารถใช้ตรวจสอบก่อนยืนยันการจ่ายเงินอีกครั้งหนึ่ง
    ข้อสังเกตเมื่อทำรายการสำเร็จ
    1. ลูกค้าและร้านค้าจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อทำรายการชำระเงินสำเร็จ โดยรูปแบบบริการแจ้งเตือน (Notification) จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย
    2. นอกจากบริการแจ้งเตือน (Notification) ร้านค้าสามารถดูร้านค้าตรวจสอบ e-Slip ที่ถูกต้องจากโทรศัพท์มือถือของผู้ซื้อ มีข้อสังเกต ดังนี้
    - มีข้อความ/สัญลักษณ์ที่แสดงว่าทำรายการสำเร็จ
    - ชื่อบัญชีผู้รับเงิน หรือ บัญชีร้านค้า
    - จำนวนเงิน
    - เลขที่อ้างอิง (Reference Number)
    - วัน/เวลาที่ทำรายการ (ในเวลาที่ซื้อขาย)
 
7) ร้านค้าที่ต้องการรับเงินด้วย QR Code ต้องทำอย่างไร
ร้านค้าสามารถติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

8) ประโยชน์ที่ร้านค้าจะได้รับ
  • เพิ่มช่องทางการชำระเงิน ช่วยขยายฐานลูกค้าและโอกาสทางธุรกิจ
  • ค่าใช้จ่ายถูก ไม่ต้องเสียค่าอุปกรณ์
  • เงินเข้าบัญชีโดยตรง เงินไม่สูญหาย ไม่ถูกโจรกรรม ไม่ต้องห่วงเรื่องธนบัตรปลอม และไม่ต้องทอนเงิน
  • ตอบสนอง Lifestyle ยุคใหม่ของลูกค้า ที่นิยมทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ

9) ร้านค้าจะได้รับเงินอย่างไร
ร้านค้าจะได้รับเงินเข้าบัญชีที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้ (โดยผูกบัญชีเงินฝากธนาคารกับเลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์)

10) ร้านค้ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการใด ๆ จากร้านค้าที่ใช้บริการรับชำระเงินผ่าน QR Code

11) ร้านที่ใช้ QR Code เป็นร้านค้าบุคคลธรรมดาได้หรือไม่
ร้านค้าทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถรับเงินผ่าน QR Code ได้ โดยสมัครรับบริการกับผู้ให้บริการ ซึ่งจะมีการรับร้านค้าตามข้อกำหนดของธนาคาร

12) ร้านค้าจะทราบได้อย่างไรว่าได้รับเงินเข้าบัญชีแล้ว
ธนาคารจะมีบริการแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน SMS

13) สามารถตรวจสอบรายการเงินเข้าบัญชีใน Mobile Banking ได้ทันทีหรือไม่
ได้ทันที

14) ร้านค้าสามารถเปลี่ยนผู้ให้บริการชำระเงินด้วย QR Code ได้หรือไม่
ร้านค้าสามารถเลือกใช้บริการจากธนาคาร และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยควรยกเลิกการใช้ QR Code เดิม และแสดง QR Code ใหม่ ที่ร้านค้าเพียงอันเดียว เพื่อป้องกันการโอนเงินผิดพลาด

15) ร้านค้าต้องการเปลี่ยนบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ต้องทำอย่างไร
  • สามารถเปลี่ยนบัญชีได้ที่สาขาธนาคาร
  • การเปลี่ยนบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ภายในธนาคารเดียวกันไม่ต้องเปลี่ยน QR Code ในกรณีนี้ร้านค้ายังคงใช้หมายเลขพร้อมเพย์เลขเดิมในการรับชำระเงิน
  • การเปลี่ยนบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับต่างธนาคาร ต้องทำการเปลี่ยน QR Code กับธนาคาร

16) ร้านค้าต้องการเปลี่ยนแปลงเลขพร้อมเพย์เพื่อรับ QR Code ต้องทำอย่างไร (ทั้งธนาคารเดิมและต่างธนาคาร)
  • ร้านค้าต้องแจ้งต่อธนาคาร เพื่อทำการยกเลิกการผูกหมายเลขพร้อมเพย์เดิม
  • ร้านค้าสามารถติดต่อธนาคารที่ท่านจะใช้บริการ เพื่อทำการสมัครบริการพร้อมเพย์ และขอรับ QR Code ใหม่

17) การรับชำระเงินด้วย QR Code ที่ร้านค้าแตกต่างจากการใช้เครื่อง EDC อย่างไร
การรับชำระเงินด้วย QR Code จะมีความสะดวกและคล่องตัวในการติดตั้งมากกว่าเครื่อง EDC อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลายช่องทางที่ตรงกับการใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้บัตร หรือ ใช้ Mobile Banking ดังนั้น การเลือกติดตั้งควรพิจารณาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของร้าน

18) หากร้านค้าใช้ QR Code จะถูกส่งข้อมูลทางการเงินให้กรมสรรพากรหรือไม่
  • ข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้ามีกฎหมายดูแล ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า ยกเว้นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เปิดเผยตามคำสั่งศาล หรือเปิดเผยเพื่อประโยชน์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
  • การชำระเงินด้วย QR Code หรือการใช้พร้อมเพย์ไม่มีความสัมพันธ์กับการตรวจสอบภาษีหรือการเรียกคืนภาษีย้อนหลังของกรมสรรพากรแต่อย่างใด
  • การชำระเงินด้วย QR Code หรือการใช้พร้อมเพย์ เป็นช่องทางการโอนเงิน/ชำระเงินช่องทางหนึ่งเช่นเดียวกับการโอนเงินผ่านทาง e-Banking หรือผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคาร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีการส่งให้แก่กรมสรรพากร ทั้งนี้ กรมสรรพากรมีอำนาจออกหมายเรียก ให้ธนาคารส่งข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงิน (ไม่ว่าจะทำผ่านช่องทางใดก็ตาม) ให้แก่กรมสรรพากรตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้เสียภาษีรายนั้นยื่นเสียภาษีไม่ถูกต้องเท่านั้น ซึ่งกฎหมายให้อำนาจไว้อย่างจำกัด และไม่สามารถขอให้ส่งข้อมูลการโอนเงินทั่วไปได้
 
19) ในการทำรายการชำระเงินด้วย QR Code ผู้ซื้อต้องตรวจสอบอะไรบ้าง
  • ให้สังเกตโลโก้พร้อมเพย์ สำหรับการจ่ายเงินด้วย QR Code และ QR Code อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
  • ชื่อบัญชีของร้านค้าที่แสดงในโทรศัพท์มือถือต้องถูกต้องตรงกับที่แสดงใต้รูป QR Code ที่ร้านค้า หรือตรวจสอบกับร้านค้าก่อนยืนยันทำรายการ
  • ตรวจสอบจำนวนเงินให้ตรงกับที่ต้องการชำระ

20) ประชาชนผู้ใช้งาน จะสามารถใช้งานได้อย่างไร มีค่าธรรมเนียมหรือไม่
ผู้ที่ต้องการชำระเงินซื้อสินค้าด้วย QR Code สามารถเริ่มจากศึกษาว่าผู้ให้บริการที่ท่านเลือกใช้ เช่น ธนาคาร หรือผู้ให้บริการชำระเงินมีการจัดทำ Mobile Application เพื่อให้บริการนี้หรือไม่ หากมีก็สามารถ Download Mobile Application ที่ต้องการ เมื่อจ่ายเงินซื้อของก็เปิด Mobile Application เพื่ออ่าน QR Code พร้อมเพย์ของร้านค้าที่ธนาคารจัดให้ เลือกวิธีการจ่ายเงิน ใส่จำนวนเงิน และยืนยัน ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมจะขึ้นกับการกำหนดของผู้ให้บริการแต่ละราย

21) ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
  • สะดวก ใช้งานง่าย ไม่ต้องพกเงินสด
  • ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวเงินสูญหาย ปลอดภัยจากการโจรกรรม ไม่เสี่ยงต่อการทุจริตที่ร้านค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องธนบัตรปลอม

22) เมื่อจ่ายเงินแล้วลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่าได้ตัดเงินจากบัญชีแล้ว
ระบบ Mobile Application ของผู้ให้บริการจะมีการส่งยืนยันการชำระเงิน เช่น SMS หรือ e-mail หรือการแจ้งเตือนที่มือถือ เพื่อให้ลูกค้าทราบว่า ได้ตัดเงินจากบัญชีแล้ว หรือตรวจสอบจากประวัติการทำรายการ (History)

23) กรณีลูกค้าจ่ายเงินผิดต้องทำอย่างไร
การดูแลลูกค้าใช้หลักการเดียวกับบริการโอนเงินตามปกติ โดยลูกค้าสามารถติดต่อธนาคารต้นทางเพื่อให้ช่วยดูแลจัดการให้ได้
 
24) QR Code คืออะไร
QR (Quick Response) Code คือ รหัสชนิดหนึ่งที่ถูกพัฒนามาจาก Barcode แต่ใช้งานง่ายกว่าและเก็บข้อมูลได้มากกว่า ปัจจุบันจึงถูกนำมาใช้แพร่หลายทั้งในภาคการผลิต ภาคการค้า ภาคบริการ และภาคการเงิน เช่น ใช้เป็นช่องทางการรับชำระเงินที่ร้านค้า ใช้เก็บเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อให้สามารถเข้าดูข้อมูลต่าง ๆ ได้สะดวก ซึ่งเราสามารถอ่าน QR Code ผ่าน Smartphone

25) QR Code ใช้ในการชำระเงินได้อย่างไร
ปัจจุบัน QR Code ได้ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าทั่วไปและร้านค้า Online และนิยมใช้ในหลายประเทศ เช่น จีน และอินเดีย โดยใน QR Code จะบรรจุข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการชำระเงิน และใช้ควบคู่กับ Mobile Application ซึ่งได้พัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบัญชี e-Wallet จึงเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก ไม่ต้องพกตัวบัตรหรือให้ข้อมูลบนบัตรแก่ร้านค้า

26) มีการกำหนดมาตรฐานสากลในการใช้ QR Code เพื่อการชำระเงินหรือไม่
EMVCo1 ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางของต่างประเทศที่ดูแลมาตรฐานและการเชื่อมต่อเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศ มีสมาชิกประกอบด้วย American Express, Discover, JCB, MasterCard, UnionPay, and Visa ได้ประกาศใช้มาตรฐานสากล QR Code สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิตแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 (EMV QR Code Specification for Payment Systems) สามารถนำมาใช้กับการชำระเงินภายในแต่ละประเทศได้ และประเทศไทยนำมาพัฒนาต่อยอด เช่น การชำระเงินด้วยบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งการนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยนั้น ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนามาตรฐานกลาง QR Code สำหรับการชำระเงินของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

27) การกำหนดมาตรฐาน QR Code เพื่อการชำระเงินของประเทศไทย คืออะไร
  • การกำหนดมาตรฐาน QR Code เพื่อการชำระเงิน ช่วยให้เกิดมาตรฐานกลาง ร้านค้ามี QR Code เดียวก็สามารถรับเงินได้จากหลากหลายช่องทาง / ผู้ให้บริการ เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบัญชี e-Wallet
  • ธปท. ร่วมกับผู้ให้บริการชำระเงินในไทย ทั้งธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินอื่น ในการร่วมมือกันพัฒนาและใช้มาตรฐาน QR Code เพื่อการชำระเงิน ซึ่งได้จัดทำเป็น EMV Compatible QR Code Standard สำหรับใช้ในประเทศไทย ช่วยให้ประชาชนสามารถซื้อของโดยการอ่าน QR Code และตัดเงินจากบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบัญชี e-Wallet ตามบริการที่เลือกใช้ผ่าน Mobile Application ของผู้ให้บริการแต่ละราย เป็นการเพิ่มทางเลือกในการชำระเงิน และเพิ่มช่องทางรับเงินที่สะดวกให้แก่ร้านค้า นอกจากนี้ ในอนาคตร้านค้าสามารถรับชำระเงินจากลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ด้วย เนื่องจากใช้มาตรฐานสากลของ EMV QR Code เดียวกัน
*ธนาคารกรุงศรียังไม่เปิดให้บริการชำระเงินผ่าน QR Code ด้วย บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัญชี e-Wallet

28) แนวทางการใช้ QR Code เพื่อการชำระเงินของไทยเป็นอย่างไร
  • ด้านประชาชน: ตัวอย่างการใช้ QR Code ที่แพร่หลาย คือ ร้านค้ามีป้ายแสดง QR Code ที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการจัดให้ ให้ลูกค้าอ่านผ่าน Mobile Application บนโทรศัพท์มือถือ ลูกค้าใส่จำนวนเงิน และยืนยันการจ่ายเงิน
  • ด้านร้านค้า: QR Code ที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการจัดให้ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งร้านค้าทั่วไป และร้านค้า Online โดยใช้รับเงินได้จากบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีเงินฝากธนาคาร และบัญชี e-Wallet ซึ่งร้านค้าผู้รับเงินสามารถเลือกที่จะเป็นร้านค้าที่รับบัตรและกำหนดบัญชีที่จะใช้รับเงิน หรือรับชำระเงินด้วยบริการพร้อมเพย์ก็ได้
*ธนาคารกรุงศรียังไม่เปิดให้บริการชำระเงินผ่าน QR Code ด้วย บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัญชี e-Wallet

29) การชำระเงินผ่าน QR Code ใช้อุปกรณ์ใดได้บ้าง
สามารถใช้ Smartphone ได้ทุกรุ่น ซึ่งต้อง Download Mobile Application ที่ต้องการใช้ลงบนโทรศัพท์มือถือ เพื่ออ่าน QR Code ของร้านค้าในการชำระเงิน
 
30) กรณีตรวจสอบจาก SMS หรือ Mobile Banking แล้วแต่ไม่มีรายการเงินเข้าบัญชีต้องทำอย่างไร
ร้านค้าสามารถตรวจสอบความถูกต้อง e-Slip จากผู้ซื้อได้อีกช่องทางว่ารายการสำเร็จหรือไม่ โดยดูจากชื่อร้านค้า, หมายเลขพร้อมเพย์, วันเวลาที่ทำรายการ และยอดเงิน เป็นต้น แต่หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center 1572 ได้ตลอด 24 ชม.

31) เบอร์มือถือที่ใช้ SMS Alerts จำเป็นต้องเป็นเบอร์เดียวกับที่ผูกพร้อมเพย์หรือไม่
ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์เดียวกับที่ผูกพร้อมเพย์ ซึ่งร้านค้าสามารถใช้เบอร์ฯ อื่นๆ ได้ แต่แนะนำให้ร้านค้าใช้เบอร์เดียวกับที่ผูกพร้อมเพย์เพื่อป้องกันความสับสน

32) การรับ SMS Alerts แจ้งรายการเคลื่อนไหวของบัญชีต้องเชื่อมต่อกับ Internet หรือไม่
การรับ SMS Alerts สามารถรับได้เมื่อใช้สัญญาณโทรศัพท์ปกติ ไม่ต้องจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Internet

33) การใช้บริการ Mobile Banking ต้องเชื่อมต่อกับ Internet หรือไม่
โทรศัพท์มือถือต้องเชื่อมต่อกับ Internet เพื่อที่จะเข้าใช้งาน Mobile Banking สำหรับตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวของบัญชีได้ตลอดเวลา
 
 
สะดวก
รับการชำระเงินด้วย QR code จาก Mobile Banking Application ของทุกธนาคาร ไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัครใช้งาน
ง่าย
ไม่ต้องพกเงินเยอะ ไม่ต้องเก็บเงินสด
ปลอดภัย
เข้าใช้งานด้วยรหัสผ่านส่วนตัว 6 หลัก
มั่นใจ
แจ้งเตือนทันทีเมื่อได้รับค่าสินค้าหรือบริการ ตรวจสอบยอดขายและรายการย้อนหลังได้ทันที

อยากมีมั่ง ต้องมั่งมี
กรุงศรีมั่งมี QR และ กรุงศรีมั่งมี App

กรุงศรีมั่งมี App คือ แอพพลิเคชั่นสำหรับร้านค้าจากธนาคารกรุงศรี เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการเพิ่มช่องทางการรับชำระเงิน เพิ่มความสะดวกสบาย รับเงินง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทอน ปลอดภัยกับรหัสผ่านส่วนตัวรวมถึงธุรกรรมทางการเงินต่างๆ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา